พิซซ่าซูชิ หน้าแซลมอน พิซซ่าสไตล์ญี่ปุ่น

พิซซ่าซูชิ อาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้มีการใช้ความคิดที่สร้างสรรค์จากเมนูอาหารอิตาลี และนำมาประยุกต์ให้เข้ากับวัตถุดิบของชาวญี่ปุ่นจนได้คิดค้นเมนูที่แปลกใหม่อย่างพิซซ่าซูชิ ขึ้นมาโดยยังคงหลงเหลืออาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวญี่ปุ่นอยู่ ประกอบไปด้วยปลาแซลมอนดิบ สาหร่ายโนริ เป็นอาหารหลักที่คนนิยมทาน ซึ่งแน่นอนว่ารสชาติต้องถูกปากแน่นอน สำหรับใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่น เราขอแนะนำเมนูนี้เลย สามารถทำทานเองได้ที่บ้าน มาดูกันว่าทำยังไงบ้าง

ส่วนผสมของข้าวญี่ปุ่น

ข้าวญี่ปุ่น สำหรับปั้นซูชิ 2 ถ้วย
น้ำ 2 1/2 ถ้วยตวง
น้ำส้มสายชูญี่ปุ่น 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมสำหรับม้วนซูชิ

สาหร่ายโนริ 1 แผ่น
ข้าวปั้นซูชิ 2/3 ถ้วย
แตงกวา 3 แผ่น
ปลาทูน่าอาฮิ 2 แผ่น
อะโวคาโด 3 แผ่น

ส่วนผสมสำหรับตกแต่งตามชอบ

แซลมอน (หั่นชิ้นเล็ก)
ปลาทูน่า Ahi (หั่นชิ้นเล็ก)
อาโวคาโด
เกล็ดสาหร่ายโนริ

ขั้นตอนการทำ พิซซ่าซูชิ หน้าแซลมอน

1.เตรียมหม้อสำหรับหุงข้าว นำข้าวญี่ปุ่น สำหรับปั้นซูชิ 2 ถ้วยน้ำ 2 1/2 ถ้วยตวง เทใส่หม้อหุง รอจนข้าวสุกแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 – 20 นาที พักไว้เพื่อให้ข้าวคลายความร้อน

2.ใส่น้ำส้มสายชูญี่ปุ่น 1/2 ถ้วย น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ ลงในชามขนาดเล็กแล้วคนส่วนผสมให้ละลาย ใส่ข้าวญี่ปุ่นลงไปแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน

3.นำพลาสติกแร็ปมาคลุมเสื่อม้วนเพื่อไม่ให้ข้าวติดกันเสื่อไม้ไผ่ วางแผ่นสาหร่ายโนริ ไว้ด้านบนของเสื่อซูชิไม้ไผ่ จากนั้นตักข้าวญี่ปุ่นวางลงบนแผ่นสาหร่ายโนริ เกลี่ยให้ข้าวญี่ปุ่นกระจายไปทั่วแผ่นสาหร่ายให้ได้แผ่นบางๆและไม่หนาเกินไป เพื่อคลายความร้อนของข้าว

4.วางแตงกวา 3 แผ่น ทูน่า 2 แผ่น และอะโวคาโด 3 แผ่น ไว้ใต้จุดกึ่งกลางของแผ่นสาหร่ายโนริ แล้วห่อข้าวเป็นเกลียวให้แน่นเพื่อสร้างซูชิโรลแล้วพักไว้

5.ตัดชิ้นส่วนของสาหร่ายโนริ ให้เป็นสามเหลี่ยม เพื่อสร้างฐานของพิซซ่า วางข้าวญี่ปุ่นลงไปเกลี่ยให้เท่ากัน นำซูชิโรลที่ม้วนไว้เมื่อสักครู่ วางลงที่ขอบของแผ่นสามเหลี่ยม เพื่อสร้างพิซซ่าให้เป็นชิ้นที่สมบูรณ์ ให้ได้ขนาดเท่า ๆ กัน แล้วตกแต่งหน้าพิซซ่าญี่ปุ่นด้วย แซลมอน ปลาทูน่าอาฮิ อะโวคาโดและเกล็ดสาหร่ายโนริ หรือของตกแต่งตามชอบ เสร็จพร้อมรับประทานคะ

อีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจ : ทงคัตสึราเม็ง ก๋วยเตี๋ยวโฮมเมด สไตล์ญี่ปุ่น

สนับสนุนโดย : https://www.ufa877.com/

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *