แม้แต่บานอฟฟี่มังสวิรัติที่เป็นวีแก้นก็เป็นของหวานที่เรียบง่ายที่น่าขัน แต่หน้าตาและรสชาติน่าประทับใจสุดๆ พายบานอฟฟี่มังสวิรัติ นี้เริ่มต้นด้วยฐานที่ทำจากเศษคุกกี้ย่อยอาหารมังสวิรัติและน้ำมันมะพร้าว ชั้นทอฟฟี่คาราเมลทำจากอินทผลัมตามสูตรจากเพื่อนของเรา ถัดมาเป็นกล้วยฝานบาง ๆ ประกบด้วยแส้มะพร้าว
พายบานอฟฟี่มังสวิรัติของเราทำจากพืชทั้งหมดและให้ความหวานตามธรรมชาติ แต่อย่าปล่อยให้เรื่องนั้นหลอกคุณ มันยังคงอุดมไปด้วยคุณค่าอย่างไม่น่าเชื่อ และเพียงเล็กน้อยก็จะไปได้ไกล ฉันคิดว่าพายนี้จะกินคน 10-12 คนได้อย่างง่ายดายเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่หรูหรา
เมื่อคุรอยากรักสุขภาพ Shaved Fennel Saladสลัดยี่หร่า เมนูนี้เป็นตัวช่วยที่ดีและอร่อย
วัตถุดิบ พายบานอฟฟี่มังสวิรัติ
สำหรับฐาน:
- เศษคุกกี้มังสวิรัติ 3 ถ้วย
- น้ำมันมะพร้าวละลาย ¼ ถ้วยตวง
สำหรับคาราเมลอินทผาลัม
- อินทผาลัมแบบหลุม 2 ถ้วย แช่ในน้ำร้อนนาน 30 นาที
- นมจากพืชชนิดไม่หวาน ¾ ถ้วยตวง
- สารสกัดวานิลลา 1 ช้อนชา
- เกลือทะเล 1 หยิบ
สำหรับมะพร้าว
- กะทิ 2 กระป๋องแช่เย็นข้ามคืน
ท้อปปิ้ง
- กล้วย 2 ลูกใหญ่ หั่นบาง ๆ
- ดาร์กช็อกโกแลตสำหรับโรยหน้า
คำแนะนำ
- ใส่อินทผลัมลงในชามแล้วปิดด้วยน้ำร้อน พักไว้ให้แช่ในขณะที่คุณกำลังเตรียมส่วนผสมอื่นๆ
- วางคุกกี้ย่อยที่ด้านล่างของกระทะสปริงฟอร์มขนาด 9 นิ้ว เทน้ำมันมะพร้าวที่ละลายแล้วลงไป ใช้ส้อมคนให้เข้ากันกับคุกกี้
- ใช้ไม้พายหรือก้นแก้วกดคุกกี้ลงในชั้นที่แน่นและสม่ำเสมอ
- วางกระทะลงในตู้เย็นเพื่อแช่เย็นในขณะที่คุณเตรียมส่วนผสมที่เหลือ
- สะเด็ดอินทผลัมให้ดีแล้วใส่ในเครื่องเตรียมอาหารพร้อมกับนมจากพืช วานิลลา และเกลือเล็กน้อย ปั่นสองสามครั้งให้เข้ากันแล้วปั่นจนเนียน
- ในการทำแส้มะพร้าว ให้เปิดกะทิที่แช่เย็นแล้วตักหัวกะทิที่แข็งขึ้นจากด้านบนลงในชาม ตีด้วยเครื่องผสมไฟฟ้าจนสีอ่อนและขึ้นฟู ประมาณ 2-3 นาที
- ในการประกอบพายให้ทาคาราเมลอินทผาลัมให้ทั่วเปลือกย่อยอาหารแช่เย็น
- โรยหน้าด้วยกล้วยฝานบาง ๆ ตามด้วยหัวกะทิ
- โรยหน้าพายด้วยชิ้นกล้วยเพิ่มเติมและดาร์กช็อกโกแลตขูดหากต้องการ
- ทำใจให้สบายอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงก่อนเสิร์ฟ
- ในการเสิร์ฟ ค่อยๆ ปลดวงแหวนออกจากถาดสปริงฟอร์ม หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วยกออกโดยใช้เซิร์ฟเวอร์พาย
Credit gclub
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *