Site Overlay

คุกกี้บลูเบอร์รี่

คุกกี้บลูเบอร์รี่ เนื้อนุ่มเคี้ยวเพลินพร้อมบลูเบอร์รี่สดช็อคโกแลตขาวครีมชีสและไส้แยมบลูเบอร์รี่ตรงกลางเป็นคุกกี้บลูเบอร์รี่ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา มาลองทำกัน

ส่วนผสม

  • แป้ง 1 ½ ถ้วย
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
  • เกลือ ¼ ช้อนชา
  • ผงฟู ¾ ช้อนชา
  • เนยจืด ½ ถ้วย
  • น้ำตาล ¾ ถ้วย
  • ไข่ 1 ฟอง
  • วานิลลา 1 ช้อนชา
  • ไวท์ช็อคโกแลตสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ 4 ออนซ์
  • บลูเบอร์รี่ ¾ ถ้วย

สำหรับไส้

  • ครีมชีสนิ่มลง 2.5 ออนซ์
  • น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  • วานิลลา ½ ช้อนชา
  • แยมบลูเบอร์รี่ 3 – 4 ช้อนโต๊ะ
คุกกี้บลูเบอร์รี่

ขั้นตอนการทำ คุกกี้บลูเบอร์รี่

  1. ในชามขนาดเล็กปัดส่วนผสมแห้ง: แป้งข้าวโพดเกลือและผงฟูพักไว้
  2. ตีเนยและน้ำตาลด้วยความเร็วสูงประมาณ 2 นาทีจนเป็นเนื้อครีม ใส่ไข่และวานิลลาลงไปผสมให้เข้ากัน
  3. ใช้เครื่องผสมของคุณในระดับต่ำผสมในส่วนผสมแห้ง
  4. ตะล่อมให้เข้ากันประมาณ ¾ ของชิ้นช็อกโกแลตขาวสำรองไว้เพื่อกดด้านบนของคุกกี้
  5. สุดท้ายพับบลูเบอร์รี่ด้วยไม้พายยาง แต่ทำอย่างเบามือและพยายามอย่าให้เบอร์รี่แตก แป้งจะหนาและเหนียว ปิดฝาและแช่เย็นเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
  6. ในการทำไส้ให้ผสมครีมชีสวานิลลาและน้ำตาลผงคนให้เข้ากันแล้วนำเข้าตู้เย็น
  7. เมื่อพร้อมอบให้อุ่นเตาอบที่ 180C แล้วเรียงแผ่นรองอบด้วยกระดาษ parchment
  8. ในการประกอบคุกกี้ให้ตักแป้งหนึ่งช้อนโต๊ะที่กองไว้แล้วใส่ชามลึก เติมส่วนผสมครีมชีส 1 ช้อนชาและแยมบลูเบอร์รี่ประมาณ¾ช้อนชา เติมด้วยแป้งคุกกี้½ช้อนโต๊ะและปิดผนึกช่องต่างๆ ม้วนเบา ๆ ให้เป็นลูกบอล กดช็อกโกแลตขาว 2-3 ชิ้นที่ด้านบนและด้านข้างของคุกกี้แต่ละชิ้น ก่อนอบลูกคุกกี้แช่แข็งเป็นเวลา 10 นาที (หากคุณมีเนื้อที่หรือแผ่นอบไม่เพียงพอในช่องแช่แข็งให้วางคุกกี้ที่รีดแล้วบนถาดที่บุด้วยกระดาษ parchment และนำไปแช่แข็งแล้วนำไปอบเมื่อพร้อมอบ)
  9. เรียงลูกคุกกี้ลงบนถาดอบโดยเว้นระยะห่างไว้ 3 นิ้ว เพราะคุกกี้จะกระจายตัวขณะอบ อบ 16-18 นาที เย็นบนถาดอบเป็นเวลา 10 นาทีจากนั้นนำไปวางบนตะแกรงให้เย็นสนิท

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * 

อีกหนึ่งเมนูแนะนำ คุกกี้เมล็ดกาแฟ

Credit แทงบอลออนไลน์

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *